ปัจจุบันมีการนำโดรนมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะโดรนที่มีการติดตั้งกล้องความละเอียดสูงและอุปกรณ์สำรวจข้อมูลความสูงภูมิประเทศเชิงเลขความละเอียดสูงอย่างไลดาร์ (LiDAR) เช่น DJI Matrice 300 และ กล้อง Phoenix Scout M2X ที่สามารถได้ข้อมูลทั้งภาพถ่ายความละเอียดสูง และข้อมูล LiDAR ที่มีความถูกต้องทางตำแหน่งจากการเก็บข้อมูลตำแหน่ง RTK ทั้งนี้ สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปทำงานต่อได้อย่างครบถ้วน ด้วยโปรแกรม Reality Mapping for ArcGIS Pro ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ล่าสุดจาก Esri ที่มีความสามารถในการทำงานเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลภาพถ่ายจากโดรนแบบ Streamline end-to-end workflow
การประมวลข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศด้วย Reality Mapping for ArcGIS Pro
Reality Mapping for ArcGIS Pro เป็นเครื่องมือตัวใหม่จากทาง Esri ที่มีคุณสมบัติในการทำงานกับข้อมูลภาพ Photogrammetry และการนำไปสร้างข้อมูล Reality ที่มีความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
โดยความสามารถของ Reality Mapping for ArcGIS Pro เน้นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการทำ Photogrammetry ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ได้จากโดรน หรือ อากาศยาน โดยไม่จำกัดขนาดและปริมาณข้อมูล ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่การทำ Aerial Triangulation, การเพิ่มความถูกต้องของข้อมูลด้วยการใช้จุดควบคุม (GCP: Ground Control Point), การแก้ไขจุด Tie-point ไปจนถึงการสร้างผลลัพธ์ที่หลากหลายและละเอียดถูกต้อง ทั้ง True-Orthophoto, Digital Surface Model, Point Cloud, 3D Mesh ซึ่ง Reality Mapping สามารถทำงานในขั้นตอนทั้งหมด และลดขั้นตอนที่ยุ่งยากจากในการทำงานปกติให้สามารถเข้าใจง่ายและสะดวกมากขึ้น ผ่านการทำงานทั้งหมดบน ArcGIS Pro
กระบวนการทำงานและผลลัพธ์จากการประมวลผลด้วย Reality Mapping for ArcGIS Pro
ตัวอย่าง ข้อมูลที่ได้มาจากการบินสำรวจข้อมูลด้วย Drone DJI Matrice 300 พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Phoenix SCOUT-M2X ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพความละเอียดสูง และข้อมูล LiDAR ที่มีความถูกต้องทางตำแหน่งจากการเก็บข้อมูลตำแหน่ง RTK ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำการบินแบบแนวดิ่ง overlap/sidelap 80/70 ความสูงบิน 80 เมตร ความละเอียดภาพถ่าย 2.6 cm ครอบคลุมพื้นที่ 2 ตร.กม. จำนวนภาพ 3,915 รูป นำมาทำงานบน Reality Mapping for ArcGIS Pro ผ่านขั้นตอนหลัก 3 ขั้นตอน คือ Create Workspace, Block Adjustment, Generate Product ทั้งหมดเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติ ในลักษณะ Streamline end-to-end workflow
ตัวอย่างผลลัพธ์ข้อมูลที่ได้จากการประมวลผล ทั้ง True-Orthophoto, Digital Surface Model (DSM), 3D Mesh, Point Cloud
การวิเคราะห์ต่อยอดข้อมูลที่ได้จาก Reality Mapping for ArcGIS Pro
สามารถนำภาพ True-Orthophoto ที่ได้จากการประมวลผลผ่าน Reality Mapping for ArcGIS Proไปใช้งานต่อ โดยการ Share ไปที่ ArcGIS Image Server โดยตรงบน ArcGIS Pro เพื่อนำไปตรวจสอบและวิเคราะห์ในลักษณะการอัปเดท Basemap ภายในองค์กรหรือหน่วยงานผ่าน ArcGIS Enterprise ได้ทันที
หรือการวิเคราะห์ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ผ่านการเปรียบเทียบความแตกต่างของ Raster ที่ได้จากการประมวผลทั้ง True-Orthophoto หรือ Digital Surface Model เช่น การใช้ประโยชน์ที่ดิน และลักษณะความสูงที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละพื้นที่ ผ่านเครื่องมือบน ArcGIS Image Analyst
หรือการทำ Feature detection จาก True-Orthophoto และ Point Cloud ที่ได้จาก Reality Mapping for ArcGIS Pro ด้วยเครื่องมือ Deep Learning model ที่สามารถนำมาใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการเตรียมข้อมูลที่ซับซ้อนในขั้นตอน Machine Learning
นอกจากนี้ ArcGIS Pro มีเครื่องมือที่พร้อมใช้งานได้ทั้งอาคารสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ถนน หรือสายไฟฟ้าแรงสูง นำข้อมูล Point Cloud ที่ได้จากการประมวลผลภายถ่ายจากโดรน ไปสกัดแบบ Automatic ออกมาเป็นข้อมูลอาคารสิ่งก่อสร้างในลักษณะ LOD-2 ที่มีลักษณะที่มีความละเอียดของข้อมูลมากกว่า Footprint ทั่วไป
